Osaka Unlimited วันนี้เราจะไปเที่ยวเมือง โอซาก้า แบบ Unlimited กัน เราได้ซื้อตั๋ว Osaka Unlimited Pass ของ บริษัท Surutto นั่นเองครับ บัตรนี้สามารถใช้โดยสารรถไฟ subway และรถไฟเอกชนของโอซาก้า บางสายแบบ unlimited เลยทีเดียว เราจึงกำหนดให้วันนี้เป็นวันท่องเที่ยวโอซาก้าแห่งชาติครับ

ภาพเปิดของเราเป็นมุมมหาชนครับ มุมนี้สามารถถ่ายได้ที่… เดี๋ยวค่อยตามไปดูด้านล่างนะครับ เพื่อความสนุกสนาน เอาล่ะครับ จุดมุ่งหมายปลายทางแรก ผมอยากจะไปสัมผัส ด้านที่อยู่ติดทะเลของโอซาก้าครับ โดยผมเริ่มต้นลงที่ สถานี Subway Cosmo Square

Osaka – Cosmo Square Zone

เริ่มไปเดินริมท่าเรือของ โอซาก้ากันก่อน บอกไว้ก่อนนะครับ ที่นี่ ไม่ใช่สถานที่ยอดฮิตที่คนจะมากัน แต่ผมชอบบรรยากาศที่นี่เลยมา และเวลาที่มา มาช่วงเช้ามาก พิพิธภัณฑ์ยังไม่เปิด ก็เลยได้ถ่ายรูป ได้เดินเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ อย่างสบายใจ

โดมกลมๆ นี่แหล่ะครับ Osaka Maritime Museum ต่อมาขอนอกประเด็น นิดนึงครับ ว่าด้วยเรื่องความละเอียดของคนญี่ปุ่น ขนาดฝาท่อระบายน้ำยังมีรายละเอียดเลยครับ

มาเดินทางต่อกันครับ ต่อมาเราจะไปที่ สถานี Osakako กัน สิ่งแรกที่ผมสนใจคือ พิพิธภัณฑ์ สัตว์น้ำ ไคยูคัง Osaka Aquarium Kaiyukan ครับ แต่เช่นเคยครับ ตอนไปยังไม่เปิด และ ตั๋ว unlimited pass ไม่ฟรีรายการนี้ครับ

ในโซนนี้ก็จะมี ที่เที่ยวอย่างเรือ Santa Maria และ Gaint Ferris Wheel (Tempozan) ผมกะว่าจะไปยืนดู Santa Maria สักหน่อยแต่ว่า เรือมันยังไม่มาครับ และ Gaint Ferris Wheel ก็ยังไม่เปิดใช้บริการครับ

ต่อมา เราจะไปที่ Nagai กันครับ

Osaka – Nagai Area

ที่ Nagai จะมี พิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์ ธรรมชาติของโอซาก้า อยู่ หรือ Osaka Museum of Natural History ครับ ข้างในน่าสนใจมาก แต่เสียดายที่ผม ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นซะนี่ ไม่งั้นจะตื่นตา ตื่นใจมากกว่านี้

พอลงจากสถานี Nagai มาแล้ว Nagai Park ก็อยู่ข้างๆเลยครับ ส่วนพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ ก็อยู่ใน Nagai Park นั่นแหล่ะครับ พอเข้ามาก็จะเจอสวนดอกไม้แบบนี้เลยครับ

ต่อมาก็เข้าไปใน พิพิธภัณฑ์ กันครับ มีตั้งแต่ สายพันธุ์ แมลง จนไปถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมครับ นอกจากนั้นก็มี ไดโนเสาร์ด้วยครับ

อันนี้เป็นผีเสื้อครับ

โซนนี้เป็น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมครับ ต่อมาก็มาชมไดโนเสาร์กันครับ

ส่วนชั้นบน ก็มีสัตว์แปลกๆครับ

พอจบจาก Nakai Park เราก็ไปต่อที่ ชินเสะไก (Shin-Sekai) กันต่อครับ

Osaka Shin-Sekai

โซนนี้ก็เป็นโซน ช้อปปิ้ง อีกโซนนึงครับ ที่นี่คนแจก โบรชัวร์ เยอะไม่แพ้ โดทงบุริครับ แต่มีความเกรงใจน้อยกว่ากันเล็กน้อย ทำหน้าดุ หรือไม่ก็ทำหน้าพูดไม่รู้เรื่องเข้าไว้ครับ เป็นการป้องกันตัว

ที่นี่จะมีหอคอยที่มีชื่อเสียง อยู่ 1 หอคอยครับ ชื่อ Tsutentaku Tower ถือว่าเป็น Iconic ของที่นี่เลยทีเดียว

นี่อีกรูปครับ ถ่ายตรงปากทางเข้า

คินิกุแมน ก็เป็นอีก Icon หนึ่งของ Shin Sekai

นอกเหนือจาก Shin-Sekai แถวๆนี้ยังมี สถานทีช้อปปิ้ง สำหรับคนที่ชอบ อนิเม เกมส์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ อยู่ด้วย ใน Osaka เรียกกันว่า Den Den Town อยู่บริเวณ ทางทิศเหนือของ Shin Sekai คือ ข้ามถนนใหญ่ไปก็ใช่เลย

ต่อมาใกล้ๆกันก็จะมี Kuromon Ichiba Market อยู่ใกล้ๆ Shin Sekai เหมือนกันครับ มีขายของหลายอย่างเหมือนกัน ผมไปซื้อกระเป๋าหิ้วสำหรับใส่ของที่ Shoping กลับที่นี่แหล่ะครับ ราคาไม่แพงมาก แต่จำไม่ได้ว่า กระเป๋าลากมีไหมนะครับ

ต่อมาเราจะไปเที่ยว ที่สุดท้ายของวันนี้แล้วครับ ที่ผมไปได้วิวปราสาทโอซาก้าในเมืองมา คือที่นี่ครับ

Osaka Museum of History

หรือพิพิธภัณฑ์ ประวัติศาสตร์ โอซาก้า นั่นเองครับ ในนี้น่าสนใจมากครับ จะมีให้ชมประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัย Naniwa จนมาถึงตอนนี้เลยครับ

พิพิธภัณฑ์ จะอยู่ใกล้ๆกับ ปราสาท โอซาก้า ครับ พอไปถึงก็จะเห็นตึกนี้ครับ

ด้านในก็จะเจอ นิทรรศการบอกเล่าประวัติศาสตร์มากมายครับ

แสดงสิ่งก่อสร้าง

แสดง ภาพบอกเล่า ประวัติศาสตร์

และนี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ชาวโอซาก้า ภาคภูมิใจ นั่นก็คือ ละครหุ่นครับ หรือเรียกว่า บังราคุ นั่นเองครับ นี่เป็นหุ่นที่จัดแสดงให้เราได้ชมครับ

และแล้วก็ได้เวลาภาพทีเด็ดครับ ภาพนี้ จะถ่ายได้จากตอนเดินลงบันได ลงมานะครับ เป็นภาพที่ผมหาอยู่ตั้งนาน ว่าคนถ่ายเค้าไปถ่ายจากมุมไหนของเมืองโอซาก้ากันนะ แต่น่าเสียดายที่ต้องถ่ายผ่านกระจก ทำให้บางทีเห็นเป็นเงาสะท้อนในตัวบ้าง และสีที่ได้จะเพี้ยนๆ ไปนิดนึง

เอาล่ะครับ วันนี้เราก็จบทริปการเดินทางของวันนี้กันแล้วครับ Day 10 ก็จะเป็นการเดินทางกลับล้วนๆ ซึ่งตอนเดินทางกลับ ผมก็เดินทางด้วยเจ้านี่ครับ

รถไฟของค่าย นันไค พาไปลงที่ สนามบินนาๆชาติ คันไซ (KIX) ครับ แล้วที่อยากบอกก็คือ ในสนามบินมีขาย Royce และ Kitkat นะครับ ถ้าลืมซื้อก็มาซื้อที่นี่ได้ ราคาไม่ได้บวกเพิ่มอะไร

ร้านนี้ชื่อร้าน Blue Sky ครับ อยู่ในสนามบินเลยครับ ตรงใกล้ๆ Terminal ครับ และแล้ว เราก็เดินทางท่องเที่ยว กันจนจบทริป ญี่ปุ่นคราวนี้ แล้วครับ ผมใช้เวลาเขียน Review กันเป็นปีเลยทีเดียว แบบว่า ไม่ค่อยมีเวลาทำ สุดท้ายขอจบด้วย Postcard ที่ซื้อมานะครับ ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันมาโดยตลอดครับ