การเดินทางแบกเป้ตะลุยญี่ปุ่นก็มาถึงวันที่ 4 กันแล้วครับ วันนี้เราจะออกเดินทางจาก โยโกฮาม่า ไปที่ นิกโก้กันครับ เช่นเคยครับเราออกเดินทางเพื่อให้ทันรถไฟขบวนแรก จะได้ไปถึงนิกโก้เช้าหน่อยครับ ออกเดินทางจากโรงแรม ต้องเดิน และต่อด้วยนั่งรถไฟไป ใช้เวลาทั้งหมดราวๆ 3 ชม.กว่า เราออกกันก่อนหกโมงเช้าเสียอีก ไปถึงก็เก้าโมงกว่าแล้วครับนิกโก้ไม่ได้ใกล้ๆ แต่ก็ยังอยู่ในระยะที่เอื้อมถึง พอมาถึงเห็นแค่เมือง ก็คุ้มค่าแล้วครับ
ตอนเช้าก็ได้เวลามาขึ้นรถไฟ โล่งๆแบบนี้เลยครับ เลยได้ภาพแบบ ไม่มีคนเลยสักคนเดียว รถไฟญี่ปุ่นแบบเหงาๆ
เรานั่งรถไฟไปโตเกียว แล้วก็ไปต่อรถไฟความเร็วสูง Shinkansen Yamabiko เพื่อไปลงเมืองเกี๊ยวซ่า Utsunomiya จากนั้นค่อยนั่งรถไฟหวานเย็นไปนิกโก้อีกที ว่าแล้วก็ทานข้าวบนรถไฟกันดีกว่าครับ เพราะว่าเวลาผมจองที่พักมักเอาอาหารเช้า เพราะว่าที่พักมักจะจัดให้กินช่วง 7 โมง เราจะออกมาเที่ยวช้า
วันนี้เป็นข้าวหมูทอด ซื้อจากสถานีโตเกียว มานั่งกินบน Shinkansen Yamabiko นั่งไปสัก 50 นาทีก็ถึงสถานี Utsunomiya แล้วครับ จากนั้นนั่ง JR Nikko Line ไปอีก 40 กว่านาที ค่อยถึงสถานี Nikko
ใครมาถึงก็ต้องถ่ายรูปสถานี Nikko เอาไว้ครับ เพราะว่า เป็นสถานีที่ Classic มากๆ อนุรักษ์ ไว้ให้เมืองมรดกโลกแท้ๆ แล้วเราก็ต้องตามหารถบัสที่มีหน้าตาอย่างนี้ครับ
รอได้แถวๆ สถานีนิกโก้นี่แหล่ะครับ ผมเองก็ขึ้นมั่วๆ ไปลงที่ป้ายใกล้ๆ วัด Rinnoji ครับ พอมาถึงบริเวณวัด ก็จะเจอ เคาท์เตอร์ขายตั๋ว สำหรับเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตอนแรกที่ไปก็ตามหาตั๋วเหมากันก่อนครับ แต่ปรากฎว่า เค้าเลิกขายไปแล้วครับ เลยต้องซื้อตั๋วแยก เข้าครบทุกที่ของที่นี่ก็ประมาณ 3000 JPY ได้ครับ
จากแผนที่ ผมนั่งรถบัสมาลงหมายเลข 83 แล้วก็เดินไปตามเสี้นทางสีแดง แต่ด้วยความไม่รู้ ผมเลยเดินครึ่งซ้ายของแผนที่ก่อน แล้วค่อยกลับมาเดินครึ่งขวา น่าเสียดายที่วัด Rinnoji ปิดปรับปรุงอยู่ และที่นี่ด้านใน ห้ามถ่ายรูปด้วยครับ
ภาพที่ผมประทับใจ เป็นภาพถ่ายจากด้านบนตัวตึกที่สร้างครอบวัด ที่ปิดปรับปรุงครับ ภาพนี้ถ่ายผ่านกระจก ภาพเลยมีเงาสะท้อนออกมานิดหน่อยครับ
อีกภาพ เป็นภาพที่ถ่ายจากสวนข้างวัดครับ สวยงามไม่ใช่เล่นเหมือนกัน
จากนั้น เราก็เดินไปเที่ยวชม Toshogu Shrine สุสานของโตกุกาว่า อิเอยาสุ กันครับ
เข้าไปดูแล้วคุ้มค่ามากครับ เริ่มต้นด้วยทางเข้าที่เข้าไป ดูก็สวยงามมากแล้วครับ เรือนทองคำอันอลังการ ที่เห็น ภาพถ่ายยังไม่สามารถบรรยายความงดงามได้หมดเลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังมีภาพยอดฮิต ที่แฝงไปด้วยปรัชญา อย่างลิงปิดหูปิดปากปิดตา
ด้านในตรงกลาง อันนี้ผมไม่แน่ใจว่าเป็นสุสาน หรือว่า เป็นที่บูชาอะไร แต่ดูมีความขลังและศักสิทธิ์มาก
และสิ่งที่ซ่อนอยู่ ในสถานที่นี้ก็คือ แมวของโตกุกาว่าครับ มันซ่อนตัวอยู่บนขื่อ บริเวณทางเข้าชมด้านในของ Toshogu Shrine แมวนี้ถ้าใครไม่เห็นแสดงว่ามาไม่ถึงที่นี่ครับ
ต่อมาเราก็เดินทางไปเที่ยวต่อ ที่ Futarasan Shrine หรือศาลเจ้าฟูตาระซังนั่นเอง
ศาลเจ้านี้บอกตรงๆครับ คนญี่ปุ่นนิยมกัน แต่ผมก็เห็นว่ามันเป็นศาลเจ้าธรรมดาอันนึง ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นไปกว่า ศาลเจ้าโตโชกุที่ผ่านมาครับ แล้วเราก็ไปวัดไทยูอินต่อ (Taiyuin Temple)
ที่นี่ ตัววัดเองก็สวยงาม และที่สำคัญบรรยากาศดีที่สุดในนิกโก้แล้วครับ ขนาดประตูทางเข้า วิวยังสวยมากเลยครับ แต่น่าเสียดาย เวลาที่ผมไปนั้นฝนมันตกลงมาซะก่อน เลยต้องถ่ายรูปท่ามกลางสายฝน
อีกภาพหนึ่งจากบรรยากาศบริเวณรอบๆวัดครับ สวยงามอย่าบอกใครครับ
จากนั้นเราก็พยายามจะเดินต่อครับ แต่ด้วยสภาพอากาศที่หนาวมาก บวกกับความหิวโหยอย่างรุนแรง ทำให้เราต้องคิดใหม่ ยอมเดินลงเขามา เพื่อที่จะหาอาไรกินครับ โชคดีที่บริเวณตีนเขา ยังพอมีอะไรให้กินบ้างครับ เลยซัด คัดสึด้งไปชุดนึงเลยทีเดียว
พออิ่มแล้วก็ก็มีแรงเดินขึ้นไปใหม่ครับ ตามทางเดินใบไม้สีแดงสวยงามมากมายให้เราได้ถ่ายรูปกัน
หลังจากเดินกันรอบแล้วก็เดินลงเขามาจบที่สะพานชินเคียวในตำนานครับ
สะพานสีแดงสดข้ามระหว่างอุทยานประวัติศาสตร์กับถนนในเมือง ปัจจุบันไม่เปิดให้ข้ามแล้วนะครับ หลังจากนั้นเราก็เดินจากสะพานชินเคียวนั่นแหล่ะ แล้วกลับไปยังสถานีรถไฟ JR Nikko นั่งรถไฟกลับมาที่ Utsunomiya แล้วกลับโตเกียว โยโกฮาม่าต่อ คือนี้เราแวะมากินราเม็ง ที่ราเม็งมิวเซียมโยโกฮาม่า กันครับ ราเม็งมิวเซียมอยู่ใกล้ๆสถานีรถไฟ Shin Yokohama ครับ
พอซื้อตั๋วเข้าไปก็งงๆครับ บรรยากาศภายในตกแต่งเหมือนสมัยยุคกำเนิดราเม็งของญี่ปุ่น ดูหลอนๆพิกล ที่นี่จะแบ่งเป็น 2 ชั้นที่มีร้านอาหาร เป็นหลักครับ
ไปถึงก็ไม่รู้จะกินอะไรครับ อ่านไม่ออกได้แต่ดูป้าย แล้วไปตามหาอันที่เล็งไว้ว่ามันอยู่ร้านไหน
เอาล่ะครับ พอเจอแล้วเราก็เข้าร้านไปสั่งกันได้เลยครับ วิธีสั่งของในราเม็งมิวเซียม ต้องสั่งรายการอาหาร กับตู้อัตโนมัติเท่านั้นครับ และแล้วอาหารที่เราสั่งก็มาครับ
อร่อยมากจริงๆครับ ถึงจะกินไม่ค่อยเป็นก็เถอะ ต้องถึงกับเรียกพนักงานมาสอนกันเลยทีเดียว พอกินอิ่มแล้วเราก็ได้เวลา เดินถ่ายรูปครับ
ภาพที่เห็น เป็นภาพห้องโถงใหญ่ของราเม็งมิวเซียมครับ ชั้นล่างก็จะมีร้านราเม็งอยู่เหมือนกันครับ หลังจากกินเสร็จก็ได้เวลากลับที่พักกันแล้วครับ วันนี้เราจะปิดท้ายด้วยภาพ ชายฝั่งของโยโกฮาม่ายามค่ำคืนกันครับ
แล้วก็อย่าลืมติดตามชมรูปทริปของวันนี้ได้ที่ด้านล่างนะครับ