ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ บทความนี้เราจะพาไปตะลุย เกาะศักสิทธิ์ มิยาจิม่า กันต่อ ตอนที่เดินออกมาจากสวนสันติภาพฮิโรชิม่า ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ หน้าเริ่มมืด เหมือนจะเดินไม่ไหว สักพักท้องก็ร้องทันที ผมยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยครับ เพราะคิดว่าจะไปกินที่เกาะ มิยาจิม่า เลย ไม่ได้แวะมาแถวนี้ก่อน ผมมองหาร้านแถวนั้นว่ามีร้านค้า หรือร้านขายข้าวอะไรอยู่บ้างไหม ปรากฎว่า ไม่มีครับ เลยต้องพึ่งตู้กดน้ำ ซัดชานมเข้าไปด้วยความหิวกระหาย
มิยาจิม่า เกาะศักดิ์สิทธิ์
หลังจาก หายหน้ามืดแล้วผมก็ออกเดินทางต่อทันที เดินทางไปหลับไป เพราะว่า ท่าเรือมิยาจิม่า มันก็ไกลเหมือนกัน และแล้วเราก็ถึงจุดหมายปลายทางครับ พอถึงท่าเรือมิยาจิม่า ฝั่งที่เป็นท่าเรือของ JR คนเยอะมากครับ ผมก็เลยเดินไปขึ้นอีกอันนึงที่เป็นของบริษัทเอกชนซึ่งดูเหมือนจะคนน้อยกว่า ที่ผมขึ้นได้ก็เพราะว่าตั๋วที่ซื้อมา 2 Day Trips Card สามารถเอามาใช้ขึ้นเรือได้เช่นกัน
แต่ผมมารู้ทีหลังว่า เรือของ JR มันใหญ่กว่าเยอะ คนก็เลยเยอะตาม จริงๆแล้วรอไม่นานเลย ว่าแล้วพอขึ้นเรือมา ก็ต้องถ่ายภาพกลับไปยังท่าเรืออีกครั้ง
ออกเดินทางไม่นานครับ ประมาณ 15 – 20 นาทีเราก็ใกล้จะถึงฝั่งแล้ว หัวเรือหันเข้าดวงอาทิตย์ จากเดิมที่รู้สึกอากาศเย็นๆ กลับกลายเป็น อากาศอบอุ่นไปเลยทีเดียว และแล้วเราก็กำลังจะถึงเกาะ มิยาจิม่า ที่ใฝ่ฝันแล้วครับ
เอาล่ะครับ ทีนี้ได้เวลาขึ้นเกาะมิยาจิม่ากันแล้ว เรา ก็เดินขึ้นไปตามทางเรื่อยๆ ออกจากท่าเรือมาก็เจอ ป้ายแผนที่ของเกาะมิยาจิม่าทั้งหมด ผมได้ใส่ไฟล์ความละเอียดสูงเอาไว้ที่รูปภาพนะครับ เอาไปใช้กันได้เลย จุดมุ่งหมายวันนี้ เราต้องไปถ่ายรูป ประตูโทริอิกลางน้ำให้ได้ แล้วก็เราจะขึ้นไปพิชิตยอดเขา ไมเซ็นกัน
พอเดินลงมาจากท่าเรือ ก็งงๆ เฮ้ยมีกวางมาเดินเล่นไปมาอยู่กลางถนนด้วย แต่ทีเด็ดต้องเจ้าตัวนี้เลยครับ มันนั่งนิ่งมาก ทำตาปริบๆ เชื้อเชิญให้ถ่ายรูปใกล้ๆ ได้เลยทีเดียว คนบนเกาะนี้รักกวางครับ
เพิ่งชมมันอยู่ไม่ทันไร มันก็เหมือนจะได้กลิ่นอะไรบางอย่าง เดินไปขอกินเครปด้วยคน กับผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ตรงม้านั่ง เป็นภาพที่ผมชื่นชอบอีกภาพหนึ่งครับ ขอกินด้วยคนครับ เห็นแล้วก็ขำ คนโบกอาหารไปมา เจ้ากลางก็มองตาม แล้วพยายามทำจมูกไปใกล้ของกิน
แล้วเราก็เดินลัดเลาะขึ้นไปแถวๆ Shopping Arcade กันก่อน เพราะว่า ยังหิวโครตๆอยู่ครับ บรรยากาศ Shopping Arcade ก็มีทั้งร้านมากมาย ผู้คนเดินขวักไขว่กันเยอะแยะไปหมด ที่สำคัญได้กลิ่นของกินโชยมาครับ อาหารยอดฮิตที่ผมเห็น ก็จะได้แก่ หอยนางรมตัวใหญ่ๆ เผาครับ
ตอนนี้หิวมากแล้ว ที่จริงไม่ได้ทานข้าวเช้ามา เริ่มมองสอดส่ายสายตา ร้านไหนดีนะ สุดท้ายมาเจอร้านนี้ครับ คนกินเยอะอยู่เหมือนกัน ถึงกับต้องต่อคิวเลยทีเดียว ร้านที่มีอาหารยอดฮิตครบทุกอย่างครับ
เอาล่ะทีนี้ก็ได้เวลาอาหารจานเด็ดกันแล้ว อาหารที่ขึ้นชื่อบนเกาะมิยาจิม่า มีอยู่ 3 อย่าง อันนี้เท่าที่ผมรู้นะครับ ก็คือ ข้าวหน้าปลาไหล หอยนางรมสดทรงเครื่อง และหอยนางรมเผา
เมื่ออาหารมาแล้ว ก็จัดการซัดให้เต็มที่ เพื่อตอบสนองกับความหิวที่ไม่ได้ทานข้าวเช้ามา ขณะนี้เป็นเวลาเที่ยง พอดีครับเวลาที่เรามารับประทานอาหารกลางวันกัน เสร็จแล้วก็มุ่งหน้าไปยังศาลเจ้าหลักในตำนาน อย่าง ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ หรือที่เราเรียกว่า ศาลเจ้าลอยน้ำกันนั่นแหล่ะครับ เพราะมีทั้ง โทริอิที่อยู่กลางน้ำ และตัวศาลเจ้าเองเมื่อเวลาน้ำขึ้นก็จะมีสภาพเหมือนกับลอยน้ำอยู่ยังไงยังงั้นเลยครับ เดินมาสักพักก่อนถึงศาลเจ้าหลัก ก็จะเจอมุมมหาชนที่ทุกคนต้องถ่ายรูปมาครับ
ต่อมาเราเดินต่อไปยังตัวศาลเจ้าหลัก เพื่อชมการก่อสร้างและวัฒนธรรมภายด้านในกันครับ
ภายในศาลเจ้าอิสึคุชิมะ ยังมีมุมถ่ายรูปที่ถือว่าเป็นมุมมหาชนอีกมุมหนึ่งครับ เป็นสะพานทอดหันหน้าตรงกับโทริอิกลางน้ำพอดี
จากรูปจะสังเกตเห็นว่ามีเรือยาวพายมาใกล้ๆ ประตูโทริอินะครับ เราก็สามารถขึ้นเรือนั้นได้เหมือนกัน จะมีชาวเรือรับจ้างพาเราเข้าไปใกล้ประตูศาลเจ้าลอยน้ำนี้ครับ มีความเชื่อว่า ถ้าได้ขึ้นเรือมาสัมผัสหรือวางเงินไว้ที่ประตูลศาลเจ้า จะเป็นศิริมงคลกับชีวิต
ต่อมาครับเราก็จะเดินเท้าต่อไปที่ สวนโมโมจิดานิ และไปขึ้นโรบเวย์ เพื่อไปสู่ยอดเขาไมเซ็น ที่ร่ำรือกันว่า เป็นหนึ่งในสามจุดชมวิวที่สวยที่สุดในทะเลเซโตะ
ที่สวนโมโมจิดานินี้ มีสะพานแดงเป็นสัญลักษณ์ครับ ว่ามาถึงสวนแล้ว จะพานแดงดังกล่าว สร้างเพื่อใช้สำหรับข้ามธารแม่น้ำ ที่เกิดจากน้ำตกเล็กๆ ใกล้ๆกับสะพานครับ
และแล้วก็ได้เวลาขึ้น Ropeway ครับ คนต่อแถวเยอะมาก ต้องรอสักพักหนึ่งกว่าจะได้ขึ้น สำหรับคนที่ยังไม่มีตั๋ว สามารถซื้อตรงทางขึ้นได้ และถ้าใครถือ Pass 2 Days Trips ก็สามารถใช้ได้เลยเช่นกัน พอ Ropeway มาถึงเจ้าหน้าที่จะถามเราว่ามากี่คน และให้ขึ้นแต่ละตู้จนเต็ม ตอนอยู่ใน Ropeway ถ่ายรูปยากมากครับไม่สามารถขยับตัวได้มาก ต้องเอากล้องแนบกระจก แล้วกด ไปเรื่อยๆเลยครับ เพราะไม่มีโอกาส ได้ดูภาพเลยว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่ก็ยังดีที่มีรูปพอใช้ได้ติดมาบ้าง
พอถึงชั้นที่ 1 แล้ว ก็ต้องต่อไปยังชั้นที่ 2 อีกครับ ชั้นที่ 1 เรานั่งมา แต่ชั้นที่ 2 นี่ต้องยืนเหมือนรถเมลล์เลยครับ พอขึ้นมาถึงเห็นวิวก็ต้องร้อง โอ้พระเจ้า วิวสวยจริงๆครับ
แต่ว่านี่ไม่ใช่จุดสูงสุดของยอดเขาไมเซ็นครับ จุดสูงสุดต้องเดินไปอีกประมาณ กิโลเศษๆ เดินขึ้นเขานะครับ ขอบอกว่าจังหว่ะนี้ เสื้อแจ๊กเก็ตต้องถอดออกเลยครับ เพราะเหงื่อออกมาก เดินเหนื่อยมากครับ แต่พอไปถึงจุดมหาชนที่ต้องไปถ่ายรูปกัน ปิดปรับปรุงครับ แต่ก็ได้ไปถ่ายรูปจากบริเวณรอบๆมา ก็สวยมากเหมือนกันครับ
หลังจากกินลมชมวิว และนั่งพักอย่างสมใจอยากแล้ว ก็เดินกลับครับ และมุ่งหน้าไปยังเรือเฟอรี่ ผมเพิ่งมารู้ว่าที่เกาะมิยาจิม่า เค้ามีธรรมเนียมว่า ห้ามเดินย้อนเส้นทางเดิม เราก็เดินไปตามทางที่เราไม่เคยมา สักพักผ่านจุดร้านของฝาก ร้านของฝากที่นี่ จะเป็นขนมแป้งสอดใส้ ถั่วแดง หรือ เกาลัดรูปใบไม้ 5 แฉกที่เป็นสัญลักษณ์ของเกาะมิยาจิม่าครับ หลังจากเดินขึ้นเขาอย่างเหนื่อยมา เราก็ซื้อมากล่องนึง ซัดซะเรียบเลยครับ
ก่อนกลับ เจอคนเรือ ก็ยังมองหาลูกค้าที่จะขึ้นเรือไปที่ประตูโทริอิอยู่ เลยถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกซะเลย
ตอนนี้พระอาทิตย์เริ่มตกดินแล้วครับ ขอปิดท้ายด้วยภาพอำลาก่อนออกจากเกาะมิยาจิม่า
ช้าก่อนครับ Day 2 ยังไม่จบครับ ขากลับโอซาก้า รถไฟของเราวิ่งผ่านโกเบครับ เลยกระโดดลง เที่ยวโกเบอีกสักหน่อยตอนกลางคืน แล้วพบกับ Day 2 ตอนที่ 3 นะครับ ราตรีนี้ที่โกเบ
และเช่นเคยครับ เชยชมภาพสวยๆ บนเกาะมิยาจิม่ากันต่อได้เลยครับ
[…] […]