วันที่ 5 เรายังวางแผนเที่ยวเมืองนิกโก้อยู่ครับ แต่คราวนี้ เราจะไปชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตอีกสถานที่หนึ่งของ นิกโก้ครับ นั่นก็คือ นิกโก้ โอโดะมูระ วอนเอร์แลนด์ กันครับ (Nikko Edomura Wonderland) สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่พักผ่อนรูปแบบ คล้ายๆกับสวนสนุกครับ แต่ไม่มีเครื่องเล่นหวือหวา แต่จำลองบรรยากาศสมัยเอโดะมาให้ชมกัน

การเดินทางแบกเป้ตะลุยญี่ปุ่นก็มาถึงวันที่ 4 กันแล้วครับ วันนี้เราจะออกเดินทางจาก โยโกฮาม่า ไปที่ นิกโก้กันครับ เช่นเคยครับเราออกเดินทางเพื่อให้ทันรถไฟขบวนแรก จะได้ไปถึงนิกโก้เช้าหน่อยครับ ออกเดินทางจากโรงแรม ต้องเดิน และต่อด้วยนั่งรถไฟไป ใช้เวลาทั้งหมดราวๆ 3 ชม.กว่า เราออกกันก่อนหกโมงเช้าเสียอีก ไปถึงก็เก้าโมงกว่าแล้วครับนิกโก้ไม่ได้ใกล้ๆ แต่ก็ยังอยู่ในระยะที่เอื้อมถึง พอมาถึงเห็นแค่เมือง ก็คุ้มค่าแล้วครับ

และแล้วก็มาถึงวันที่ 3 ของการแบกเป้ตะลุยญี่ปุ่นคราวนี้ เช้านี้ผมใช้ ตั๋ว JR นั่งรถไฟชินคันเซน ขบวนแรกจากโอซาก้า มาลงที่ โยโกฮาม่า เพราะเราจองโรงแรมที่โยโกฮาม่าเอาไว้ ชื่อ โรงแรม Star Hotel Yokohama เมื่อเข้าไปถึงโรงแรมแล้ว เราก็ฝากกระเป๋าไว้แล้วก็ออกไปเที่ยว โตเกียวกันก่อนตามด้วย โอไดบะ ปกติสัญลักษณ์ของโอไดบะ จะเป็นสะพานสายรุ้ง แต่ผมชอบภาพนี้ครับ ภาพ กันดั้ม กำลังปกป้องโลกอยู่

วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่เรายังอยู่ที่ เชียงราย เป็นวันที่ 3 ของทริปนี้แล้วครับ หลังจากที่เราขึ้นดอยมากันตอนที่แล้ว วันนี้เราก็จะพาไปเที่ยวกันแบบสบายๆบ้าง เริ่มต้น เราจะแวะไปเที่ยว วัดร่องขุ่นกันก่อน ต่อมาค่อยแวะไปไร่บุญรอด ทัวร์ไร่ และทานอาหารที่ร้านอาหารภูภิรมย์ หลังจากทานอาหารเสร็จ เราก็จะพาไปเที่ยววัดดังในเมืองกัน ซึ่งได้แก่ วัดพระแก้ว วัดพระสิงห์ วัดมิ่งเมือง และหลัวจากเที่ยววัดเสร็จ ก็ต้องไปแวะเที่ยวที่เชียงราย ไนท์บาร์ซ่า กันสักหน่อย แล้วค่อยเข้านอนกัน

จากความเดิมตอนที่แล้ว ที่เราเที่ยวกันในเมือง วันนี้เป็นวันที่ 2 ที่เรามา เที่ยวเชียงราย เราจะออกไปเที่ยว สถานที่ยอดฮิตอย่าง ดอยแม่สลอง ไร่ชา 101 สวนแม่ฟ้าหลวง พระตำหนักดอยตุง และวัดพระธาตุดอยตุงกัน

เที่ยวเชียงราย ตอนที่ 2 หลังจากการวางแผนเที่ยวในคราวที่แล้ว ในบทความนี้ ก็ได้เวลาเดินทางอย่างจริงจังแล้วครับ เราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ตี 5 ขับรถมาเรื่อยๆ แวะพักบ้างอะไรบ้าง เพราะขับรวดเดียวไม่ไหว จนในที่สุดเราก็มาถึงจังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นเวลาเที่ยงพอดี

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ ผมนั่งรถไฟกลับมาจาก ฮิโรชิม่า ซึ่งต้องผ่านเมือง โกเบ ที่เป็นเมืองท่า ใกล้กับโอซาก้า ไม่รอช้า พวกเรากระโดดลงทันที จริงๆ แล้วโกเบ เป็นเมืองที่มีอะไรให้เที่ยวเยอะครับ แต่ทว่า เมื่อเรามากลางคืน เราก็ต้องมาจุดที่เค้านิยมมาเที่ยวชมวิวยามค่ำคืน นั่นก็คือ MOSAIC ศูนย์รวมร้านอาหาร ริมน้ำของโกเบนั่นเอง

ต่อจากตอนที่แล้วนะครับ บทความนี้เราจะพาไปตะลุย เกาะศักสิทธิ์ มิยาจิม่า กันต่อ ตอนที่เดินออกมาจากสวนสันติภาพฮิโรชิม่า ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ หน้าเริ่มมืด เหมือนจะเดินไม่ไหว สักพักท้องก็ร้องทันที ผมยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลยครับ เพราะคิดว่าจะไปกินที่เกาะ มิยาจิม่า เลย ไม่ได้แวะมาแถวนี้ก่อน ผมมองหาร้านแถวนั้นว่ามีร้านค้า หรือร้านขายข้าวอะไรอยู่บ้างไหม ปรากฎว่า ไม่มีครับ เลยต้องพึ่งตู้กดน้ำ ซัดชานมเข้าไปด้วยความหิวกระหาย 

วันที่สองนี้ เราจะเดินทางล่องใต้ไปตะลุยเมือง ฮิโรชิม่า กับเกาะศักสิทธิ์ฮิโรชิม่ากัน ฮิโรชิม่า ในอดีตเป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรื่องมาก จนกระทั่งในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ฮิโรชิม่า ได้เปลี่ยนเป็น เมืองท่าบัญชาการรบ  และในสงครามครั้งนี้เอง ได้มีการใช้ระเบิดปรมณู สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก ให้กับเมือง ฮิโรชิม่า จนทำให้ผู้คนเข็ดขยาดจากสงคราม และใฝ่หาสันติภาพ ทำให้เมืองฮิโรชิม่าทุกวันนี้ มีบรรยากาศแห่งสันติภาพอยู่ทั่วทุกอนูของเมือง