เที่ยวญี่ปุ่น คราวนี้ ต้องวางแผนใหม่ให้ดีขึ้น เพราะ คราวก่อนที่ไป เที่ยวได้ไม่กี่ที่ เพราะเป็นมือใหม่มากๆ เที่ยวญี่ปุ่น ครั้งนี้เลยต้องวางแผน เผื่อไว้ด้วย เผื่อมีเวลาว่าง เผื่อมีเหตุการณ์คับขัน แต่ก็ไม่ต้องไปอัดให้เที่ยวมากเกินไป เพราะความสุนทรีย์ ในการท่องเที่ยว คือการใช้เวลาชมสถานที่ต่างๆ ให้เต็มที่ ลองมาดูกันครับว่า แผนการเป็นอย่างไรบ้าง
Day 1 KIX – Osaka
ที่พัก : OSAKA
วันแรกทีไปผมไปลงที่สนามบินคันไซ (KIX – Kansai International Airport) แต่เวลาที่ลงก็ค่อนข้างเย็นแล้ว ประมาณ 15.30 ได้ ดังนั้นวันแรกจึงเที่ยวไม่ได้มาก
โดทงบุริ (Dotonburi)* ย่านในฝันของนักกิน นักช้อป ที่โอซาก้า เป็นย่านริมน้ำที่เต็มไปด้วย ของกิน ขึ้นชื่อของโอซาก้า และยังติดกับ สถานที่ช้อปปิ้งชื่อดังอย่าง ชินไซบาชิ (Shinsaibashi) อีกด้วย
ชินเสะไก (Shin-Sekai) ย่านดังอีกย่านหนึ่ง ที่มีหอส่งสัญญาณ กระจายเสีย สึเท็นคาคุทาวเวอร์เป็นศูนย์กลาง (Tsutenkaku)
นิปปอนบาชิ (Nippon-bashi) หรือ เด็น เด็น ทาวน์ (Den Den Town) มาดูกันซิว่า อากิฮาบาระ แห่งโอซาก้า มันเป็นยังไง
Day 2 Miyajima – Kobe
ที่พัก : OSAKA
ศาลเจ้า อิสึคุชิมะ (Itsukushima Shrine) * ศาลเจ้าลอยน้ำ บนเกาะศักสิทธิ์ มิยาจิม่า (Miyajima) แม้ในการเดินบนเกาะ ยังต้องให้เดินไปข้างหน้าอย่างเดียว ห้าเดินย้อนกลับ และมีการห้าม ไม่ให้มีการเกิดและตายบนเกาะ
ภูเขา มิเซ็น (Misen Moutain) * ภูเขาบนเกาะมิยาจิม่า ที่ว่ากันว่า เป็นเป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ต้องนั่งกระเช้าขึ้นไปนะครับ
เมอริเคน พาร์ค (Meriken Park) * สวนสาธารณะยอดนิยมที่โกเบ และเป็นภาพลักษ์ของท่าเรือโกเบ โดยเฉพาะ Kobe Port Tower หอคอยสีแดงสูงตระหง่าน ตั้งอยู่ใกล้กับ เมอริเคน พาร์ค
โกเบ ฮาเบอร์แลนด์ (Kobe Haborland) * เป็นแหล่งบันเทิงริมน้ำของโกเบ มีทั้งสวนสนุก ชิงช้าสวรรค์ และร้านค้ามากมาย รวมตัวกันเรียกว่า โมเสก (Mosaic) อีกที ถ้าต้องการถ่ายรูปเมอริเคนพาร์ค ให้สวยต้องมาถ่ายที่นี่ครับ
ถนนซานโนมิยะ (Sannomiya) พื้นที่แห่งการช้อปปิ้ง ของชาวโกเบ ประกอบด้วยร้านค้า ร้านอาหารมากมาย ยาว 1 กิโลเมตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าเกี่ยวกับเรื่องแฟชั่น
ย่านคิตะโนะ (Kitano Chu) นิยมเรียกย่านนี้ว่าย่านฝรั่ง เพราะสมัยก่อน ตอนฝรั่งมาค้าขายที่เมืองโกเบ ก็มาตั้งรกรากกันที่นี่แหล่ะครับ เลยทำให้มีสิ่งก่อสร้างสไตล์ ตะวันตก สวยงามมีเสน่ห์ ไปอีกแบบ มีตึกเขียว ที่กงสุลใหญ่อเมริกาเคยมาพักด้วยนะเออ
Day 3 Tokyo – Odaiba
ที่พัก : YOKOHAMA
พระราชวังโตเกียว (Tokyo Imperial Palace)* เป็นที่พำนักของ สมเด็จพระจักรพรรดิ ของประเทศญี่ปุ่น กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา สร้างในสมัยเมจิ มีทั้งสวน และสะพานคู่นิจูบาชิ (Nijubashi) ที่โดดเด่น หรือเรียกได้ว่า เป็น Landmark ของ Tokyo Imperial Palace ได้เลยทีเดียว
ฮาราจุกุ (Harajuku)* ย่านยุ่งๆ ของคนวัยมันส์ ย่านนี้ต้องแพลนไปวันอาทิตย์ครับ เพราะจะได้เจอกับ วัยรุ่นที่แต่งตัว เทพๆมาเจอกัน ฮาราจุกุเป็นมหานคร ของคนใจกล้า และแฟชั่นเลยทีเดียว
อากิฮาบาระ (Akihabara)* ย่านข้าวของ เครื่องใช้ไฟฟ้า การ์ตูน และอนิเม อุดมไปด้วย Maid Café และ ร้านหนังสือการ์ตูนและร้านเกมส์ ชื่อดัง
พาเลทต์ ทาวน์ (Pallet Town) ศูนย์รวม Shopping Comlex และ Entertainment Complex ดังๆมากมาย อาทิเช่น ห้างวีนัส ฟอร์ท (Venus Fort) ห้างเลเชอร์แลนด์ (Leisure Land) และชิงช้าสวรรค์ Ferris Wheel
ไดเวอร์ ซิตี้ โตเกียวพลาซ่า (DiverCity Tokyo Plaza)* ดินแดนของกันดั้ม เพราะมีทั้งกันดั้ม RX-78 ขนาดเท่าของจริง ตั้งอยู่หน้าห้าง และ ยังมี Gundam Front ที่จัดให้เข้าชมยังกับ พิพิธภัณฑ์ กันดั้ม นอกจากนั้นยังมี Gundam Café ให้ได้เข้าไปสัมผัสบรรยากาศ Café แบบ กันดั้ม
อ็อนเซ็น โมโนกาตาริ (Onsen Monogatari)* สถานที่อาบน้ำร้อน ที่ดีที่สุดในโตเกียว หรือเราอาจจะเรียกได้ว่า อ็อนเซ็นคอมเพล็กซ์ เลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะมีให้แช่น้ำร้อนแล้ว เรายัง สมาราถที่จะ เดินเล่น รับประทานอาหาร เล่นเกมส์ นั่งพักผ่อน ในสถานที่ที่จัดไว้อย่างลงตัว
สะพานสายรุ้ง (Rainbow Bridge)* เป็นสะพานที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองโตเกียว และเกาะ โอไดบะ สะพานนี้ เป็นเครื่องหมาย ของเกาะ โอไดบะ เลยทีเดียว ห้ามพลาดที่จะถ่ายรูป ยามค่ำคืนเป็นอันขาด
Day 4 Nikko World Heritage – Yokohama
ที่พัก : YOKOHAMA
โซนมรดกโลกของเมืองนิกโก้ (NIKKO World Heritage Zone)* เนินเขาแห่งนี้ประกอบไปด้วย วัด ศาลเจ้า มากมาย ให้ได้ชมกัน วัดที่ดังๆ ก็จะมี วัดรินโนจิ (Rinnoji Temple) ศาลเจ้าโทโชกุ (Toshogu Shrine) สุสานโทกุกาวะ อิเอยาสุ (Taiyuin Mausolem) และศาลเจ้าฟูตาระซัง (Futarasan Shrine)
สะพานชินเคียว (Shinkyo Bridge)* สะพานแดงในตำนาน ที่เชื่อมต่อเมือง กับโซนมรดกโลก
อุสึโนมิยะ (Utsunomiya)* เป็นทางผ่านระหว่างกลับจาก นิกโก้ ซึ่งจริงๆแล้ว เป็นเมืองอุตสาหกรรม แต่ที่มีชื่อเสียงก็คือ เกี๊ยวซ่า ที่ต้องแวะไปกินให้ได้ จึงวางแผนแวะกินข้าวที่เมืองแห่ง เกี๊ยวซ่า เมืองนี้ เกี๊ยวซ่า หากินได้ทุกที่ ตั้งแต่ สถานีรถไฟ ตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านอาหารทุกแห่งหน
Yokohama Cosmo World* สวนสาธารณะ และสวนสนุกริมชายฝั่งของโยโกฮาม่า อยู่ใกล้ที่พักอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องไป
Day 5 Nikko Edomura – Tobu World
ที่พัก : YOKOHAMA
เอโดะมูระ วอนเดอร์แลนด์ (Edomura Wonderland)* สวนสนุกย้อนยุคที่สร้างสถาปัตยกรรม บ้านเมือง แบบสมัยเอโดะ นอกจากสิ่งก่อสร้างแล้ว ยังมี ผู้คนแต่งตัวเป็นชาวเอโดะด้วย มีทั้ง ชาวบ้าน นินจาซามูไร เกอิชา เต็มเมือง มีการแสดงต่างๆ ให้ดูอีกด้วย
โทบุเวิลดิ์ (Tobu World) เมืองจำลอง ที่มีสิ่งก่อสร้างจำลองจากทั่วโลก มาจำลองที่นี่ ถ้ามีโอกาส ต้องแวะไปดู ความอลังการของสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ก็มารวมอยู่ที่นี่แล้ว
ราเม็งมิวเซียม (Ramen Museum)* มันก็คือ พิพิธภัณฑ์ราเม็ง อันโด่งดัง ที่ ชินโยโกฮาม่านั่นเอง เป็นบรรยากาศแบบเมืองเก่า ชวนให้ได้กลิ่นอาย ราเม็งสมัยโบราณ ปกติคนเยอะมากครับ แต่นี่แพลนมาตอนเย็นๆ คิดว่าคนไม่น่าเยอะครับ
พิพิธภัณฑ์บนเรือนิปปอนมารุ (Nippon Maru)* เป็นเรือสำเภาโบราณขนาดยักษ์ ที่ในปัจจุบันจอดอยู่ในบริเวณสวน Yokohama Memorial Park เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของ Yokohama เลยทีเดียว และภายในยังเป็นพิพิธภัณฑ์บนเรืออีกด้วย
สวนสาธารณะยามาชิตะ ของโยโกฮาม่า (Yokohama Yamashita Park)* ไหนๆก็มาเที่ยวโยโกฮาม่าแล้ว จะไม่แวะสวนสาธารณะริมอ่าว มันก็ยังไงอยู่ เป็นสวนสาธารณะที่สวยงาม และเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนมากทีเดียว
Day 6 Nara – Kyoto
ที่พัก : OSAKA
สวนแห่งนารา (Nara Park)* เป็นสวนสาธารณะที่ดังที่สุดในนารา เพราะเป็นที่อยู่ของวัดใหญ่ ที่มีชื่อเสียง และเป็นวัดมรดกโลก อย่างวัดโทไดจิ (Todaiji Temple) ที่ขึ้นชื่อเรื่องวิหารไม้ และพระพุทธรูป องค์ใหญ่อลังการ ที่สำคัญ เป็นเมืองของกวาง เพราะชาวนารารักกวางมาก จึงปล่อยให้มันใช้ชีวิตอย่างธรรมชาติ ลูกเลยเต็มบ้าน หลานเต็มเมือง
สะพานโทเงสึเคียว ที่อาราชิยามะ (Arashiyama Togetsukyo)* เป็น สะพานข้ามแม่น้ำ โออิ ลำพังสะพานนั้น ไม่เท่าไร แต่สภาพแวดล้อมโดยรอบนี่สิ เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจให้เข้ามาชมเป็นอย่างยิ่ง
ปราสาทนิโจ (Nijo Castle)* ปราสาทชั้นเดียวตามแบบฉบับของเกียวโต เป็นปราสาทประจำเมืองเกียวโต ที่ใช้ในสมัยก่อน โด่งดังด้วยประตูทางเข้า คารามอน (Karamon Gate) ที่ยิ่งใหญ่อลังการมากๆ ภายในยังกว้างขวาง มีหลายห้องให้ได้ชมกัน นอกจากนั้นยังมีสวนนิโนมารุ (Ninomaru Garden) ให้ได้รับชมกันอีกด้วย
ย่านกิออน และย่านริมแม่น้ำคาโมกาวะ (Gion & Kamogawa River)* ย่านกิออนเป็นย่านอนุรัษณ์ สิ่งก่อสร้างตามแบบฉบับดั้งเดิมของเมืองเกียวโต ดังนั้นจะพบ บ้านแบบโบราณ และทางเดินหินที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ย่านริมน้ำคาโมกาวะ ก็เป็นย่านที่ใช้สำหรับพักผ่อนหย่อนใจ และด้วยบรรยากาศดีๆ ประกอบกับมีร้านอาหารริมน้ำ ทำให้มื้ออาหารมื้อเย็นเป็น มื้อพิเศษ ที่อร่อยมากขึ้นไปอีก
เส้นทางนักปราชญ์ (Philosopher Path) เป็นเส้นทางท่องเที่ยว อันสวยงาม และประกอบด้วยวัดดังมากมาย
Day 7 Takayama – Shirakawa Go
ที่พัก : OSAKA
หมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)* เป็นหมู่บ้านชาวนาดโบราณ ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ไม่เพียงแต่อนุรักษ์สิ่งปลูกสร้าง แต่ยังอนุรักษ์ วัฒนธรรมดีๆไว้อีกด้วย
ทาคายาม่า (Takayama)* เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้รับการอนุรักษ์ ความเป็นเอกลักษณ์ไว้เป็นอย่างดี ย่านเมืองเก่าของทาคายาม่า เป็นอีกย่านหนึ่งที่น่าสนใจ และเป็นย่านยอดนิยมในการท่องเที่ยวเช่นกัน
Day 8 Universal Studio Japan
ที่พัก : OSAKA
วันนี้ยกให้ Universal Studio Japan อย่างเดียวเลยครับ กับ 1 Day Pass และ Express Pass เจ็ดอย่าง รวมๆแล้ว หมื่นเยนจัดไป ไปตั้งแต่เช้ายันปิดเลย
Day 9 Osaka
ที่พัก : OSAKA
วันนี้ใช้ Osaka Unlimited Pass ให้เต็มที่ครับ เที่ยวทันก็เที่ยว เที่ยวไม่ทันก็ข้าม
สวนสาธารณะเท็นโนจิ และสวนสัตว์เท็นโนจิ (Tennoji Park & Zoo) สวนสาธารณะ และสวนสัตว์กลางเมือง โอซาก้า มีสัตว์ถึง 900 ตัวมากกว่า 200 ชนิดให้ได้ชมกัน สวนสาธารณะก็มีหลายมุมให้ผ่อนคลายและถ่ายรูปเช่นกัน
พิพิธภัณฑ์ศิลปะโบราณของโอซาก้า (Osaka Municipal Museum of Art) ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเท็นโนจิ เก็บวัตถุศิลปะ โบราณมากกว่า 8000 ชิ้น และมีหลายชิ้นที่เป็นสมบัติของชาติอีกด้วย
Osaka Suijyo Bus (Aqua-Liner)* เรือชมแม่น้ำในโอซาก้า ที่วิ่งผ่านย่านใจกลางเมืองของโอซาก้า เอาไว้ล่องชมวิวให้ชิวๆ ในโอซาก้า ถ้ามาเมืองมหานครแห่งน้ำ ก็ต้องมาล่องเรือให้ได้
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) ถ้ายังไม่เคยไป มันเป็น the must ที่ต้องไปเลยครับ แต่ถ้าเคยไปแล้ว ไปอีกก็ได้ครับ ถ้ายังคิดว่าเที่ยวไม่พอ
พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอซาก้า (Osaka Museum of History)* ถูกสร้างขึ้นมาแทนที่พระราชวังนานิวะเดิม ที่เป็นพระราชวังโบราณ ภายในยังมีแบบจำลองขนาดเท่าคนจริง และเสาที่ประดับประดาเหมือนของจริงสมัยนานิวะ
พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติโอซาก้า (Osaka Museum of Natural History)* เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ควรไปของโอซาก้า ภายในจะบรรยายถึงประวัติศาสตร์ธรรมชาติของโลก ตั้งแต่ยุคไดโดเสาร์ จนถึงยุคปัจจุบัน
หอคอยสึเท็นคาคุ (Tsutenkaku Tower)* หอกระจายสัญญานของโอซาก้า เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมและขึ้นไปดูทัศนียภาพเหนือเมืองโอซาก้า บริเวณใกล้เคียง ยังเป็นเป็นตลาดชินเสะไก สถานที่ช้อปปิ้งของโลกใหม่อีกด้วย
เรือเดินสมุทรซานต้ามาเรีย (Santa Maria Cruise)* ล่องเรือรอบอ่าวโอซาก้า มีทั้งตอนกลางวันและตอนเย็น รอบกลางวันฟรี สำหรับ ผู้ถือบัตร Osaka Unlimited Pass แต่รอบเย็นไม่ฟรี
ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ ณ ตลาดเท็มโพซาน (Tempozan Giant Ferris Wheel)* ขึ้นชมวิวรอบๆอ่าวโอซาก้า กับชิงช้าสวรรค์ยักษ์
ตลาดเท็มโพซาน (Tempozan Market) เพลิดเพลินกับร้านค้าและร้านอาหารมากมาย ที่อ่าวโอซาก้า ถ้าจะแวะทานข้าวในโซนนี้ ที่นี่เหมาะเป็นที่เลือกรับประทานอาหารอย่างยิ่ง เพราะมีแทบทุกอย่างให้เลือกสรรค์
พิพิธภัณฑ์การเดินเรือโอซาก้า (Osaka Maritime Museum) โดมสีเงินกลมริมอ่าวโอซาก้า เป็นสถานที่แสดงประวัติศาสตร์การเดินเรือของมหานครแห่งน้ำนี้
อ็อนเซ็นธรรมชาติ ซูมิโนเอะ (Natural Open-air Hot Spring Spa Suminoe)* แหล่งน้ำแร่ธรรมชาติ และเป็นที่อาบน้ำสาธารณะชื่อดังของเมืองโอซาก้า เปิดทั้งกลางวันและกลางคืน และมีบริการให้แช่น้ำในหลายๆบ่อ ถือว่าที่นี่เป็นที่แช่น้ำแร่ สาธารณะแบบพรีเมี่ยมเลยทีเดียว
Day 10 Osaka – KIX
ที่พัก : กลับบ้าน
ตลาดคุโรมอน อิจิบะ (Kuromon-Ichiba Market)* ตลาดสดที่พ่อค้า พ่อครัวจากร้านอาหารต่างๆ แวะเวียนกันเข้ามาซื้อวัตถุดิบเพื่อทำอาหาร ในละแวกนั้นเองก็มีร้านอาหารหลายร้านให้ลิ้มลองเหมือนกัน
นิปปอนบาชิ (Nippon-bashi) หรือ เด็น เด็น ทาวน์ (Den Den Town)* ศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่น ดีวีดี อนิเม ทั้งหลาย หรือที่นิยมเรียกกันว่าเป็นอากิฮาบาระแห่งโอซาก้านั่นเอง ของเล่นซื้อที่นี่ครับ
สนามบินนานาชาติคันไซ (Kansai International Airport)* นอกจากขึ้นเครื่องบินแล้ว ของฝากต่างๆ หาซื้อได้ที่นี่แน่นอนครับ
และแล้ว แผนการเดินทางก็จบเพียงเท่านี้ ในบทความต่อไป จะเจาะทีละวันครับว่า แผนการเดินทางเป็นอย่างไร และรายละเอียดสถานที่ต่างๆเป็นอย่างไร ติดตามอ่านบทความต่อไปครับ